สัมผัสเสน่ห์แห่งภูมิปัญญาสุดแดนอีสาน เยือนถิ่นวิถีชุมชนท่องเที่ยวอันน่าหลงใหล ยลโฉมความงดงามของแหล่งท่องเที่ยวในเส้นทางแห่งธรรมชาติ จังหวัดบึงกาฬ เอกลักษณ์แห่งวิถีชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีอันทรงคุณค่า ท่องเที่ยวบึงกาฬตามแนวคิดการพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่ สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง 8 อำเภอ ใน 2 เส้นทาง สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดกิจกรรมท่องเที่ยว Press Tour โดยนำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่สัมผัสชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดบึงกาฬ เพื่อประชาสัมพันธ์เสน่ห์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี พร้อมทั้งดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นให้เกิดการเดินทางสู่ชุมชน อันนำไปสู่การกระจายรายได้ สร้างฐานรากเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้ “โครงการ สื่อสารสร้างการรับรู้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดบึงกาฬ” โดยเสิร์ฟเส้นทาง Press Tour ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 8 อำเภอ ในจังหวัดบึงกาฬ จำนวน 2 เส้นทาง สำหรับเส้นทางที่ 2 อำเภอบึงโขงหลง อำเภอเซกา อำเภอพรเจริญ อำเภอโซ่พิสัย กระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญและเน้นย้ำให้ กรมการพัฒนาชุมชน มุ่งดำเนินภารกิจในการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ตามที่รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม แห่งชาติ และแผนการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ไปสู่การปฏิบัติโดยให้ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีคุณค่าเพื่อผลิตกำลังคน การสร้างพลังทางสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาไปสู่ประเทศไทย 4.0 โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของโครงการชุมชน ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ซึ่งเป็นแนวคิดในการพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่ มุ่งเน้นการสร้างรายได้จากความต้องการของชุมชน เพื่อเป้าหมายในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง และประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้โดยแท้จริง สอดคล้องกับนโยบายที่เน้นการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เน้นการดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน ให้ชาวบ้านขายสินค้าในชุมชนของตน โดยการดึงเสน่ห์แห่งภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ มาแปลงเป็นรายได้ทำให้เกิดการกระจายรายได้ภายในชุมชน ช่วยส่งเสริมการสร้างชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งจะส่งผลให้ลูกหลานไม่ต้องออกไปหารายได้จากภายนอก และจะก่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล จังหวัดบึงกาฬ ได้รับมอบหมายจากกรมการพัฒนาชุมชนให้เป็นหน่วยดำเนินงานโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เปิดตัวชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี การสื่อสารสร้างการรับรู้ พร้อมทั้งนำสื่อมวลชนเยี่ยมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในชุมชน โดยวิธีการชูอัตลักษณ์ความงดงามของวิถีชุมชน เผยแพร่สู่สาธารณะชน ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยววิถีชุมชนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง
ช็อปของดีแห่งชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี
เรียนรู้วิถีชีวิตพื้นบ้าน ลิ้มรสอาหารพื้นถิ่น
สัมผัสแหล่งท่องเที่ยว “แอ่งเล็ก”
อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ
อำเภอโซ่พิสัย ︳อำเภอบึงโขงหลง ︳อำเภอพรเจริญ ︳อำเภอเซกา
เรามาเริ่มกันที่บ้านท่าลี่ บ้านท่าลี่ อ.โซ่พิสัย
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสงคราม แม่น้ำสายสำคัญของแดนอีสาน บริเวณที่ตั้งของหมู่บ้านมี หินลักษณะเป็นช่องลอดของน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า หลี่ จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้า นท่าลี่ บ้านท่าลี่มีธรรมชาติที่สวย งามโดยเฉพาะแก่งหิน และสายน้ำ ทำให้บ้านท่าลี่มีความโดดเด ่น และเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวข องอำเภอโซ่พิสัย
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวบ ้านท่าลี่
โทร. 061-427-8153 นายจำลอง ลาภอาสา ผู้ใหญ่บ้าน
โทร. 098-208-0251 นายทะนูสร แสงสุวรรณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
สัมผัสวิถีชีวิตการประมง ชมทัศนียภาพตลอดแนวสะพานข้า มแม่น้ำสงคราม ชมการ “ยกยอใหญ่” หรือที่เรียกว่า “สะดุ้ง” ในภาษาอีสาน ซึ่งบริเวณเป็นแก่งหินขนาดใ หญ่งดงาม มีธารหินดวงจันทร์ เป็นแก่งหินขรุขระคล้ายผิวด วงจันทร์นั่นเอง แก่งหินขรุขระบริเวณนี้ เราตั้งชื่อให้เองว่าเป็นมิ นิสามพันโบก : ) ถ่ายรูปเช็คอินชิคๆ ได้เลย บางหลุมมีคันเบ็ดตกปลาวางเป ็นแนวยาวด้วย นอกจากการยกยอ หว่านแห ยังมีการใช้เบ็ดตกปลาโดยหย่ อนลงไปในหลุมอีกด้วย
ชมการทอผ้าลวดลายเอกลักษณ์จ ากภูมิปัญญาโบราณแห่งบ้านท่ าลี่ที่ยังคงวิธีการแบบโบราณไม่ว่าจะเป็นการเลี้บงไหม สาวไหม ก่อนจะมาเป็นสินค้า OTOP สร้างรายได้กลุ่มผ้าซิ่นไหม โทร. 098-107-9592
มาท่าลี่แล้วไม่กินปลา ถือว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ เพราะที่นี่อยู่ติดแม่น้ำสง คราม ซึ่งชาวบ้านยังสืบสานวิถีชี วิตการหาปลา หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การยกยอใหญ่ การหว่านแห และการตกปลา ส่วนปลาที่หามาได้ก็ถูกนำมา แปรรูปเป็นอาหารอย่างในภาพน ี้ ประกอบไปด้วย เมนู ต้มปลากด ลาบปลาตองกราย ปลาร้าทอด ปลาร้า ปลาส้ม ของดีขึ้นชื่ออีกหนึ่งอย่าง ของบ้านท่าลี่ มาบึงกาฬ อย่าลืมนึกถึงปลาสดๆ จากริมแม่น้ำสงคราม ปลาส้ม นางยุ่น ผุยแพง โทร. 081-974-5380
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต แหล่งท่องเที่ยวที่จะพานักท่องเที่ยวทุกคนร่วมเรียนรู้วิถีชีวิตชาวอีสานแบบแท้ ๆ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ หมู่บ้านเล็ก ๆ และเงียบสงบ นักท่องเที่ยวจะได้เจอกับเรือนไทยอีสานในสไตล์ร่วมสมัย เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของครอบครัวชาวอีสานในสมัยก่อน ผ่านข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นแล้วภายในหมู่บ้านจะมีภาพ Street Art Buengkan ภาพวาดเรื่องราวพญานาคกับแต่ละอาชีพของชุมชนลุ่มแม่น้ำโขงกว่า 20 ภาพตามฝาบ้านเรือนไม้อีสาน แห่งเดียวในโลก แต่ละภาพสะท้อนถึงตัวตนและวิถีชีวิต ความเชื่อ วัฒนธรรม และประเพณีของชาวอีสานเอาไว้อย่างลงตัวจนน่าประทับใจ ใครแวะมาเที่ยวบึงกาฬหนนี้ ลองมาเที่ยวที่ “พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต” กันนะครับ ที่สำคัญ…เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
สัมผัสวิถีชุมชนฉบับชิคๆ อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัส : )
ก่อตั้งโดย คุณสุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง ได้นำศิลปะผสมผสานเข้ากับวิ ถีชุมชนอย่างลงตัว
…………………….. ………………….
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยว
Facebook: @พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ
โทรศัพท์: 086-229-7626 (คุณนริศรา วงศ์ภูมี)
— ที่ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ
ทัศนียภาพสุด Unseen ที่ภูสิงห์ มีจุดชมวิวหลากหลายมุม ซึ่ง #หินสามวาฬ นับเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเด ็ดขาดจึงเป็นที่มาของชื่อหินสามว าฬ นับเป็นความมหัศจรรย์ที่ธรร มชาติสร้างขึ้น ความสวยงามของวิว360องศา ที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่ ภูสิงห์ จุดท่องเที่ยวสุดฟินที่ไม่ค วรพลาดอย่าง “หินสามวาฬ” อายุราว 75 ล้านปี มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติด หน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อน เมื่อมองจากระยะไกลหินสามก้ อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบคร ัววาฬ ที่ประกอบด้วยพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ นากจากนี้ ในพื้นที่ของภูสิงห์ยังเต็ม ไปด้วยกลุ่มของก้อนหินรูปทร งต่างๆ หน้าผา และถ้ำ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ เกิดเป็นความสวยงามที่สะกดสายตาผู้มาเยือน ยืนที่หินก้อนกลาง จะสามารถถ่ายภาพ หินวาฬก้อนใหญ่ได้สวยงาม • ลักษณะหมือนวาฬตัวใหญ่มาก มีพื้นผิวที่มองจากรูปแล้วยิ่งคล้าย (ควรระมัดระวังในการยืน เพราะอาจลื่นพลาดตกลงมาได้) • เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า • ขับรถขึ้นไปได้แต่จอดรถบริเวณจุดชมวิวถ้ำฤาษี ซึ่งมีห้องน้ำและจุดกางเต็นท์บริการ การเดินทาง ขับรถมาจากตัวจังหวัดบึงกาฬประมาณ 24 กิโลเมตร ไปตามถนนเลียบแม่น้ำโขง (ถนนหลวงสาย 212) ทางจังหวัดนครพนม จะเจอทางเข้าภูสิงห์อยู่ทางขวามือ เลี้ยวรถขึ้นไป แล้วขับขึ้นไปประมาณ 6 กิโลเมตรก็จะเจอ จอดรถที่ลานกางเต็นท์ ถ้ำฤาษี จากนั้นเดินเท้าไปชมหินสามวาฬ (Tree Rock Whale) ประมาณ200เมตร
บ้านคำสมบูรณ์ อ.บึงโขงหลง
บรรยากาศยามเช้าที่บ้านคำสม บูรณ์ เราจะไป บ้านคำสม บูรณ์ และต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง บริเวณบึงโขงหลงมีความอุดมส มบูรณ์ทางธรรมชาติสมชื่อหมู ่บ้านเลยก็ว่าได้ และเนื่องจากวันนี้เราตื่นเ ช้ากันมากๆ เพื่อมาให้ทันชมดอกบัวบาน อาหารเช้าจึงเป็นอะไรที่เรี ยบง่ายแต่ฟินมาก อย่าง ข้าวเหนียว หมูทอด น้ำจิ้มแจ่ว ทานกันบนเรือพร้อมชมดอกบัวบ าน ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเช้า
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวบ ้านคำสมบูรณ์ โทร. 093-561-4349 นางเอี้ยง ผิวเงิน ผู้ใหญ่บ้าน
อย่าลืมแวะเวียนเรียนรู้ภูม ิปัญญาท้องถิ่นของบ้านคำสมบ ูรณ์ มีทั้งชาใบหม่อน ไข่เค็ม ปลาส้ม และผลิตภัณฑ์จากผ้าทอ ผ้าขาวม้า เป็นต้น ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน เป็นของฝากน่ารักๆ : )
ชาใบหม่อน โทร.093-347-8964 (นงลักษณ์ คำหงษา)
ไข่เค็ม โทร.093-598-3261 (อารีย์ พันธุ์สุวรรณ)
ปลาส้ม โทร.081-060-4173 (ประทุมมี ปีเลียม)
บ้านสุขสาคร อ.พรเจริญ
ชุมชนท่องเที่ยวสุขสาครอยู่ ติดกับแหล่งน้ำ มีธรรมชาติอันสวยงาม ชาวบ้านมีวิถีชีวิตร่วมกับแ หล่งน้ำ ทั้งการทำมาหากิน ประเพณี และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ที่สะท้อนถึงความเป็นคนลุ่ม น้ำหนองเลิง อย่าง ชากลีบบัว สบู่จากจุกบัว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีขนมขึ้นชื่ออ ย่าง ทองม้วน ที่ชาวบ้านทำเองสดๆ ร้อนๆ ทั้งยังมีศูนย์พัฒนาชุมชนที ่ช่วยสร้างรายได้ให้ผู้สูงอ ายุ กับการทอผ้า ทอผ้าขาวม้า ทอเสื่อ เป็นต้น
กลุ่มสมุนไพรบัวริมบึง โทร. 081-964-5145
ทองม้วน โทร. 085-213-7386
ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต (ผ้าขาวม้า, เสื่อ) โทร. 087-213-6978
น้ำตกถ้ำพระ อ.เซากา
ตั้งอยู่บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ้านถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ที่ไหลอยู่บนภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เนื่องจากน้ำตกถ้ำพระเป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในป่าจึงจำเป็นต้องจอดรถไว้ที่ท่าเรือ แล้วนั่งเรือรับจ้างของชาวบ้านเข้าไปที่ตัวน้ำตกจากนั้นเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงตัวน้ำตกถ้ำพระชั้นที่ 1น้ำตกถ้ำพระได้ชื่อมาจาก ในสมัยก่อนภายในบริเวณน้ำตกเป็นวัดป่า และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บริเวณชะง่อนผา ภายหลังวัดป่าได้ย้ายไปและเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมความงามของน้ำตก นอกจากนี้ยังมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และครอบครัวเนื่องจากได้มาเล่นน้ำกันในลำธารกันอย่างสนุกสนานน้ำตกถ้ำพระเป็นน้ำตกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและเล่นน้ำได้ตามอัธยาศัย ไม่มีการเก็บค่าบริการ นอกจากค่าเรือรับจ้างมาส่งบริเวณน้ำตก หากเหมาลำ ประมาณลำละ 100 บาท หรือถ้ามาช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็เพียง 20 บาท ต่อคน
บ้านหนองหิ้ง อ.เซกา
บรรยากาศการต้อนรับอันอบอุ่ น บ้านหนองหิ้งชุมชนท่องเที่ย ว OTOP ที่ชาวบ้านดูมีความสุข สนุกสนาน มีอาชีพหลัก คือ ทำนา ทำสวน ส่วนอาชีพเสริม คือ การจักสาน ทอผ้า ทอเสื่อ
บ้านหนองหิ้ง มีตำนานหิ้งปลาย่าง คือการนำไม้ไผ่สานเป็นรูปสี ่เหลี่ยมสำหรับย่างเนื้อปลา เรียก หิ้งย่าง เป็นวิถีชีวิตของชาวอีสานแต ่ดั้งเดิม และกลายเป็นเอกลักษณ์ของหมู ่บ้าน
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวบ ้านหนองหิ้ง
โทร. 087-089-6176 นายปฏินันท์ (กำนัน)
โทร. 089-576-9892 นางสมปอง (ผู้ใหญ่บ้าน)
วัดแสงอุทัย เป็นวัดประจำหมู่บ้าน ที่ไม่เพียงแค่เป็นศูนย์รวม จิตใจของคนในหมู่บ้าน แต่ยังมีต้นไม้ใหญ่ อย่าง ต้นโพธิ์ใหญ่ อายุมากกว่า 700 ปี และต้นจำปาลาวอายุ 171 ปี
ซึ่งเรานั่งรถซาเล้งสัมผัสว ิถีชุมชนหนองหิ้งแห่งนี้ โดยแวะชมจุดท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเย็บผ้า กลุ่มจักรสาน กลุ่มทอผ้า เป็นต้น และอีกจุดที่น่าสนใจคือสวนเ กษตร มีบ่อเพาะพันธุ์ ฮวก หรือ ลูกอ๊อด ที่โตมาเป็นกบขนาดยักษ์
ชื่นชมของดีบ้านหนองหิ้ง ที่นี่มีการตัดชุดเสื้อผ้าพ ร้อมสวมใส่จากผ้าทอมือ ลวดลายต่างๆ เป็นงานฝีมือที่โดดเด่น มีความประณีต สะท้อนถึงวัฒนธรรมของคนที่น ี่
กลุ่มเย็บผ้า โทร. 061-075-8244
กลุ่มทอผ้า โทร. 093-661-6454
กลุ่มจักสาน โทร. 086-023-2726
กลุ่มเกษตรผสมผสาน โทร. 092-175-1548
และอีกหนึ่งจุดเช็คอินของบ้านหนองหิ้งก็ยังมีสะพานไม้ไผ่ทอดยาว แวะเวียนมาถ่ายรูปกันได้เรียกได้ว่ามีกิจกรรมที่หลากหลายให้ทำกันอย่างไม่มีเบื่อกันเลยทีเดียวสำหรับชุมชนบ้านหนองหิ้ง
และนี้คือทั้งหมดของ ภูมิปัญญาโบราณ เหนือสุดแดนอีสาน สัมผัสเสน่ห์ชุมชน unseen บึงกาฬ เส้นทางที่2 ที่้เที่ยวติดดินนำมาเสนอให้กับเพื่อนได้เลือกไปเที่ยวกัน แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าครับ
สามารถย้อนชมเส้นทางที่1ได้ที่
https://tiewtiddin.com/uncategorized/bueng-kan-otop-village-route1.html