สระแก้วเป็นอีกจังหวัดชายแดนของไทยทางภาคตะวันออกที่ติดกับประเทศกัมพูชาใช้เวลาเดินทางเพียง2-3ชั่วโมงจากกรุงเทพ เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายในเรื่องของเส้นทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่ไม่ควรพลาด วันนี้เที่ยวติดดินจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวสระแก้วกันว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ไม่ต้องพูดเยอะเจ็บคอไปกันเลยครับ
ที่แรกเราจะพาท่านไปเรียนรู้การทำนากันที่ โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนควายและสอนคนให้รู้จักการใช้ชีวิตแบบวิถีเกษตรกร ซึ่งที่นี้จะให้คุณได้รู้จักการไถนาโดยใช้ควายจริงๆ ในแปลงข้าว ไม่ก็ไม่ต้องกลัวไปเพราะควายที่นำมาให้ลองไถนานั้นผ่านการฝึกมาแล้วอย่างดีไม่ดุร้าย นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆอย่างเช่นปั้นดินให้เป็นควายอีกด้วย นอกจากการเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนกาสรกสิวิทย์แล้วแล้ว ขอเชิญเข้าร้านกาแฟ ‘ควายคะนอง’ ซึ่งมีเครื่องดื่มไว้คอยบริการดับกระหายคลายร้อนอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กาแฟร้อน กาแฟเย็น ช็อคโกแลตร้อน ช็อคโกแลตเย็นขาย นอกจากนี้ยังมีอาหารจานเดียวไว้บริการอีกด้วย โดยบรรยากาศภายในร้านตกแต่งได้อย่างสวยงามและเป็นธรรมชาติ และเป็นจุดชมวิวที่จะสามารถชมทิวทัศทัศน์อันงดงามของโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ได้อย่างทั่วถึงเลยทีเดียว
หลังจากไปเรียนรู้การทำนากันเรียบร้อยแล้วต่อไปจะเพื่อนๆไปพบกับ ละลุ ความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติของจังหวัดสระแก้วแห่งนี้เป็นปรากฏการณ์พิเศษที่เกิดจากการที่น้ำฝนได้กัดเซาะดินจนเกิดการยุบตัวและบางส่วนพังทลายลงมา เมื่อถูกลมกัดกร่อนจึงก่อเกิดรูปร่างต่างๆ ชวนจินตนาการบรรเจิด บางจุดดูคล้ายกำแพงเมือง บางจุดมีลักษณะเป็นหน้าผา บางบริเวณมีลักษณะเป็นแท่งดินดูแล้วชวนให้นึกถึง “แพะเมืองผี” ของจังหวัดแพร่อย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งพื้นที่ของละลุที่ไพศาลถึง 2,000 ไร่ยังแบ่งเป็นโซนต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและสวยงามแปลกตาแตกต่างกันในแต่ละโซน ที่สำคัญทุกปีละลุจะเปลี่ยนรูปร่าง ไปเรื่อยตามแต่พลังลมและฝนจะสร้างสรรค์ นับเป็นประติมากรรมธรรมชาติที่น่าชื่นชมอย่างแท้จริง
ที่ละลุแห่งนี้มีบริการรถสำหรับนำชมพร้อมมัคคุเทศท้องถิ่นหรือยุวมัคคุเทศก์ท้องถิ่น โดยค่าเช่ารถราคาประมาณ 200 บาท นั่งได้ประมาณ 8-10 คน
– มีบริการบ้านพักที่ศูนย์บริการ หรือจะลองพักแบบโฮมสเตย์ของชาวบ้านก็ได้







หลังจากตื่นตาตื่นใจกับความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติกันที่ละลุแล้วเราจะพาเพื่อนๆไปสัมผัสกับความชุ่มฉ่ำ ความสมบูรณ์ของผืนป่าในอุทยานแห่งชาติปางสีดา คือจุดเริ่มต้นของความชุ่มฉ่ำจากสายน้ำ และการเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งนกหลากหลายสายพันธุ์กว่า 300 ชนิด ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ที่ปกคลุมด้วยสภาพป่าหลายประเภท ทั้งป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมที่แห่งนี้จึงกลายเป็นความสุขสำหรับ คนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง น้ำตกปางสีดา เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของอุทยานฯ และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 800 เมตร มีลักษณะเป็นสายน้ำทิ้งตัวจากหน้าผาสูง 8 เมตรลงสู่เบื้องล่างที่เป็นแอ่งกว้าง รอบๆ น้ำตกสายนี้เต็มไปด้วยความร่มรื่นเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ
เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น.
อัตราค่าบริการ ชาวไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท/ ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ ราคา ราคา 600 – 1,200 บาท
ความสนุกของสระแก้วยังไม่หมดแค่นี้ เที่ยวติดดินจะพาเขาถ้ำน้ำเขาศิวะ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเขาไปแล้วติดนะครับเพราะถ้ำที่นี้มีเจ้าหน้าที่นำทางตลอด ไม่ต้องกลัวหลง สำหรับสายลุยโดยเฉพาะเลยเพราะต้องใส่ชูชีพลุยน้ำผ่านเข้าไปภายใน มีไฟฉายเตรียมให้เพราะภายในมืดมาก ถ้ำน้ำเขาศิวะ หรือที่ชาวบ้านเรียก “ถ้ำศิวะ” ตั้งอยู่ภายใต้เทือกเขาตาง็อกและเทือกเขากกมะม่วง หมู่บ้านเขาจันทร์แดง ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ห่างจากที่ว่าการอำเภอคลองหาดประมาณ 16 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลออกมาทั้งปี ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 10-220 เซนติเมตร ถ้ำลึกเพียบ 500 เมตร แต่ใช้เวลาในการเข้าเที่ยวชม 1-2 ชม. ภายในเป็นหินงอกหินนย้อยสวยงาม บางบริเวณมีลักษณะคล้ายม่านและยังมีน้ำตกเล็กๆอยู่ภายในถ้ำอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้รักการผจญภัยที่ว่ายน้ำเป็น
หลังจากไปผจญภัยกันแล้วเปลี่ยนแนวมาเดินเรียนรู้ประหวัติศาสตร์กันบ้าง ที่ ปราสาทสด๊กก๊อกธม โบราณสถานที่ใหญ่และสำคัญของจังหวัดสระแก้ว และเป็นโบราณสถานขอมที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองเสม็ด ตำบลโคกสูง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 14 เพื่อใช้ประดิษฐานรูปเคารพและใช้ประกอบพิธีกรรมตามคติความเชื่อ ในลัทธิศาสนาฮินดู คำว่าสด๊กก๊อกธม หมายถึง “ เมืองที่มีต้นกกขึ้นรกในหนองน้ำใหญ่ ”ซึ่งปัจจุบันยังพอมองเห็น หนองน้ำใหญ่ในอดีตอยู่ใกล้ ๆ ปราสาทนั่นเอง
ปราสาทสด๊กก๊อกธม ประกอบด้วยองค์ปราสาท 3 หลัง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีคูน้ำล้อมรอบ 4 ด้าน มีกำแพงแก้ว 2 ชั้น ชั้นนอกทำด้วย ศิลาแลงชั้นในทำด้วยหินทราย ตัวปราสาทก่อด้วยหินทราย มีโคปุระหรือซุ้มประตูเหลืออยู่เพียงด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเท่านั้น ภายใน ระเบียงคตมีบรรณาลัยก่อด้วยหินทราย 2 หลังอยู่หน้าปราสาทหลังกลางซึ่งเป็นปรางค์ประธาน ด้านนอกปราสาททางทิศตะวันออกมีสระน้ำขนาด ใหญ่รูปสี่เหลี่ยม มีถนนปูด้วยหินจากตัวปราสาทไปจนถึงสระน้ำ
ถ้ำเพชรโพธิ์ทองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอ.คลองหาด เป็นถ้ำขนาดกลางอยู่ในภูเขาที่ทอดยาวขนานไปกับพื้นดิน ถ้าเดินเท้าขึ้นภูเขา จะผ่านป่าจันผาซึ่งเป็นป่าที่ชุมชนได้ร่วมกันอนุรักษ์และปลูกเพิ่มเติมจากเดิมที่กำลังจะสูญพันธุ์ เป็นการชมผืนป่าที่เริ่มพลิกฟื้นให้สมบูรณ์ดังเดิม ที่ปากถ้ำมีลมพัดผ่านช่องเขาเข้าไปถ่ายเทในถ้ำตลอดเวลา ทำให้ภายในถ้ำไม่อบอ้าวและเย็นสบายตลอดปี อีกทั้งที่ตั้งของถ้ำเพชรโพธิ์ทองถูกแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ไร่นาของชาวบ้านที่เพาะปลูกพืชผักทางการเกษตรเต็มไปหมด ทำให้บรรยากาศโดยรอบนั้นสดชื่น ลมโชยเย็นสบายและได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในบริเวณนั้นอีกด้วย
เป็นถ้ำธรรมชาติที่ภายในมีความวิจิตรสวยงาม ทั้งหินงอก หินย้อย และปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดเป็นรูปใบโพธิ์สีทอง จากสีสนิมของน้ำที่ซึมมาตามผนังถ้ำ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมโรยตัวบนหน้าผาที่ใกล้กับถ้ำเพชรหาดทรายแก้ว ความสูงจะมีประมาณ 30 เมตร แต่ความหวดเสียวก็ไม่เป็นรองที่ใด มีอุปกรณ์safetyและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
ได้เวลาพักชิลๆในทุ่งนาเขียวขจี กันที่กาแฟบ้านย่า ตั้งอยู่ในอำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว เป็นร้านกาแฟชิคๆกลางทุ่งนา พร้อมกระท่อมปลายนา มีสะพานเดินผ่านทุ่งนา บรรยากาศดี ลมเย็น ชากาแฟราคาไม่แพง แก้วละ 40-50บาท รสชาติอร่อย อาหารมีข้าวผัดกระเพราหมูสับ ข้าวผัดกระเพราหมูกรอบ ข้าวไข่เจียว ข้าวผัด เฟรนฟรายทอด ราคาอาหารอยู่ที่ 35-40บาท รสชาติอร่อย อาหารจะเสริฟใส่ปิ่นโต ร้านอยู่ที่ 40 หมู่5 บ้านชุมทอง ต.เบญจขร อ.คลองหาด เทศบาลเมืองสระแก้ว 27260 หรือโทรสอบถามกันที่ 080 368 3767
และทั้งหมดนี้เป้นเพียงส่วนหนึ่งที่ เที่ยวติดดินนำมาเสนอให้กับเพื่อนๆได้ลองตามไปสัมผัสกับ สระแก้ว เมืองรองที่น่ารัก น่าไปผจญภัยใกล้ๆกรุงแค่นี้เอง แล้วทริปหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหนกันต่อติดตามกันได้นะครับบ