หากคุณอยากที่จะออกไปล่านางพญาเสือโคร่ง ที่เชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็นขุนช่างเชียน หรือดอยอ่างข่างขุนวาง ถ้ามันไกลเกินไปก็ลองมาดูที่ พิษณุโลกกันดู หรือที่บ้านร่องกล้า เป็นอีกจุดหนึ่งที่คนนิยมขึ้นไปดูความงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งปีนนี้มีความสวยงามและบานพร้อมกันในหลายแปลง เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น สำหรับทริปนี้ ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก ที่พาไปเราไปเที่ยวและเปิดแหล่งเรียนรู้ใหม่ๆของจังหวัดพิษณุโลก มาเริ่ม ทริปหัวใจสีชมพูของเรากันเลยดีกว่าครับบ

ก่อนอื่นเลยพาท่านไปอิ่มท้องโดยมื้อนี้เราพาไปกินส้มตำปูเสื่อซึ่งเป็นร้านอาหารไทยอีสานชื่อดังในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งบรรยากาศภายในร้านนั้นกว้างขว้างมีสระน้ำพร้อมซุ้มกระท่อมปลายนา ริมสระน้ำ มีปลามาให้เลี้ยงด้วย พร้อมรับลมเย็นๆ เมนูอาหารก็ไทยอีสานมากมายให้เลือก ร้านส้มตำปูเสื่อ ตั้งอยู่ ถนนพิษณุโลก-บางกระทุ่ม (กระท่อมปลายนา ริมสระน้ำ) วัดพริก เมืองพิษณุโลก พิษณุโลก 081-971 3948, 081-532 9627

หลังจากกินเสร็จแล้วก็ได้เวลาผ่อนคลายหลังจากที่นั่งรถมานานเราพาท่านไปที่สปาวังส้มซ่า หมู่1 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พาไปชมวิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์ทรัพยากรชีวภาพ เพื่อเศรษฐกิจชุมชน จากตำนานบ้านวังส้มซ่า สู่สปาชุมชนเมืองสองแคว ที่ภายในหมู่บ้านทุกบ้านจะมีต้นส้มซ่าปลูกอยู่แทบจะทั่วหมู่บ้าน จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน และเกิดเป็นการพัฒนานำผลส้มซ่ามาผลิตเป็นครีมโลชั่นต่างๆที่ใช้ในสปาทาผิว สระผม ต่างๆมากมาย เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่มีการนำสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนมาประกอบอาชีพเพื่อส่งเสริมชุมชน เช่นเดียวกับ “นายประสิทธิ์ เพ็งหัวรอ”ปลูกสวนป่าหลากชนิด ใช้ประโยชน์ได้ทั้งปีที่ต.ท่าโพธิ์อดีตข้าราชการ ใช้เวลาว่างช่วงเป็นข้าราชการ มาทำนา แต่มีปัญหามาก จึงน้อมนำหลักเกษตรแบบผสมผสาน ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปฏิบัติ แปลงผืนนาปลูกเป็นสวนป่าครอบครัว จนเกิดเป็นรายได้อย่างยั่งยืนจริง ๆ หลังเกษียณ โดยเฉพาะมะดันดอง ที่ส่งขายไปแล้วทั่วประเทศ

หลังจากที่ผ่อนคลายยืดเส้นเป็นที่เรียบร้อยกันแล้วก็จะพาท่านไปรู้จักกับสุนัขพันธุ์บางแก้ว ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ หมู่บ้าน บางแก้ว อ.บางระกำ จริงๆแล้วมีหลายบ้านหลายคอกที่เลี้ยงผสมพันธุ์เพื่อขาย แต่รอบนี้เราพามาที่คอกของชนะชัยบางแก้ว ซึ่งเป้นคอกที่เลี้ยงมาแบบดูแลกันตั้งแต่เเรกเกิดทำให้ไม่ดุ ใครที่ชนใจชื่นชอบสุนัขบางแก้วแล้วละก็ลองโทรติดต่อไปได้ที่ พี่ เสนอ จันทร์พุฒ 52/2 ม.9 บ้านยมราช ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โทร 097-0410221 -097-0386588

หลังกจากเล่นกับน้องหมาบางแก้วที่น่ารักกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาไปเดินเที่ยวหาของกินกันที่ถนนคนเดิน พิษณุโลกกันแล้วซึ่งจะมีเป็นประจำทุกวันเสาร์เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองพิษณุโลกได้มาเลือกซื้อสินค้านานาชนิด ตั้งแต่ศิลปหัตถกรรม เสื้อผ้า สินค้าโอท็อป สินค้าการเกษตร ตลอดจนอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มที่เรียงรายบนถนนยาวกว่า 500 เมตร และยิ่งกว่านั้น สิ่งที่น่ารื่นรมย์ที่สุดต้องยกให้กิจกรรมรำวงย้อนยุคซึ่งหาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน แถมคุณยังเข้าไปร่วมรำกับชาวบ้าน ได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย ถนนคนเดินจัดขึ้นบริเวณถนนสังฆบูชา หน้าวัดจันทร์ตะวันออก อำเภอเมืองพิษณุโลก เปิดทุกวันเสาร์ เวลา 16.00-24.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 055 231 400-9 ต่อ 306

หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งแต่เช้าแล้วก็เตรียมเข้าที่พักในเมืองซึ่งรอบนี้เราพาท่านไปนอนให้หลับสบายกับ The Zense Boutique Hotel

โรงแรมบูติคสไตล์บูติกร่วมสมัยในเมืองประวัติศาสตร์ของพิษณุโลก Zense คือการแสดงออกของศิลปะดนตรีแฟชั่นและสถาปัตยกรรมซึ่งการออกแบบที่ไม่เหมือนใครกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการใช้ชีวิตที่หรูหราในเมือง ผ่อนคลายในห้องแบบเรียบง่ายด้วยการออกแบบอันละเอียดอ่อนและไม่เหมือนใครเพื่อสร้างพื้นที่พักผ่อนที่ผ่อนคลายด้วยเส้นสายที่สะอาดและการตกแต่งที่ออกแบบตามสั่ง เย็นสบายที่สระว่ายน้ำกลางที่สมบูรณ์แบบหลังจากการเที่ยวชมวัดวาอารามและสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองและเพลิดเพลินกับอาหารนานาชาติที่ยั่วเย้าให้กับร้านอาหารสุดเก๋และสบาย ๆ

เดอะเซนส์ บูติค โฮเทล 88/8 หมู่ 7 ถนน สีหราชเดโชชัย ต.วัดจันทร์ เมืองพิษณุโลก พิษณุโลก 65000 โทร 055-335 233

หลังจากกินอิ่มนอนหลับพักผ่อนมีแรงแล้วก็ไปกันต่อที่ อ.อำเภอวังทอง เพื่อไปนมัสการขอพร เจ้าแม่กวนอิมหยกขาว ที่วัดราชคีรีหิรัญยาราม เดิมทีเคยเป็นวัดร้าง และหลังจากนั้นได้มีพระสงฆ์มาจำพรรษาเมื่อ พ.ศ. 2496 โดยภายในบริเวณวัดมีการพบรอยพระพุทธบาทจำลอง และบนเขาซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของวัด มีรอยพระบาทตะแคงอยู่กับหน้าผา ซึ่งนี่เองได้เป็นจุดเริ่มต้นของการจัดงานนมัสการพระพุทธบาทในกลางเดือน 3 เป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการอัญเชิญพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งแกะสลักจากหินทะเลสาบหยกขาวจากเมืองหางโจว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นปางพิเศษที่ได้รับอนุมัติให้สร้างโดยรัฐบาลจีนโดยใช้ต้นแบบจากวัดเจ้าแม่กวนอิมเมืองหางโจว มีขนาดสูง 3 เมตร หนัก 3 ตัน มาประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้ ที่นี่จึงเป็นที่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ถัดจากวัดเจ้าแม่กวนอิมขึ้นไปบนเขาจะมีทางแยกไปศาลเจ้าเห้งเจีย ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนไปไหว้เจ้าทำบุญกันเป็นประจำ ซึ่งบนนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง และยัง เป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์ศรีบวรชินรัตน์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระนลาฏ (กระดูกหน้าผาก)ของพระพุทธเจ้า โดยเจดีย์มีลักษณะเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ บริเวณฐานประดิษฐานพระพุทธลีลามหาธรรมราชาลิไท ทั้ง 4 ด้าน วัดราชคีรีหิรัญยาราม ตั้งอยู่ที่บ้านสมอแคลง ในเขตอำเภอวังทอง จากตัวเมืองพิษณุโลกไปตามทางหมายเลข 12 (เส้นทางสายพิษณุโลก-หล่มสัก) ประมาณ 14 กิโลเมตร (ก่อนถึงอำเภอวังทอง 3 กิโลเมตร) มีทางแยกซ้ายไปอีก 500 เมตร

หลังจากไหว้พระขอพรเจ้าแม่กวนอิมเสร็จแล้วเลยไปอีกนิดก็จะมีสถานที่สำคัญก็คือ พระมหาชัยเจดีย์ศรีสมอแคลง พงศาวดารเหนือ บันทึกไว้ว่า พระยาจิตรไว เจ้าเมืองน่าน สร้างเจดีย์องค์นี้เพื่อบรรจุพระธาตุของพระอรหันต์เถระเจ้า คือพระอุบาลีเถระ และพระศิริมานนท์เถระ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ ๒ รูปที่ได้รับนิมนต์เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สร้างพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร และมีผู้รู้เล่าว่าเจดีย์องค์นี้เป็นที่บรรจุพระอัฐิเจ้าเมืองพิษณุโลกทุกพระองค์และมีการซ่อมแซมหลายครั้ง อิฐทุกก้อนจะมีลวดลายบนแผ่นอิฐและหลายลวดลาย เจดีย์องค์นี้มีอายุประมาณ ๗๐๐ ปี ตั้งอยู่บนเขาสมอแคลง หมู่ที ๘ บ้านเขาสมอแคลง ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๑๗ กิโลเมตร

ที่นี้เปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวกันที่บ้านไร่ภูตะวัน บ้านมุง เนินมะปราง กับทุ่งดอกทานตะวันที่่กำลังบานรับแสงตะวันรับนักท่องเที่ยวให้มาเยียมชมความสวยงาม นอกจากมีวิวที่สวยงามแล้วที่นี้ยังมีที่พักให้นักท่องเที่ยวได้มาพักด้วยนะครับบ สนใจจองห้องพักหรือกางเต้นติดต่อ 080-9518399 (คุณไก่)

ถ่ายรูปกันเหนื่อยแล้วไปเติมพลังกับอาหารมื้อกลางวันกันที่มาเดอ เออภูธาราพิษณุโลก อ.วังทอง ร้านอาหารร้านกาแฟสุดชิล ริมน้ำ บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ทั้งโซนริมน้ำและที่นั่งหลากหลายให้เลือกนั่ง ในส่วนของอาหารก็อร่อยไม่แพ้บรรยากาศร้าน กาแฟรสเข้ม ของหวานเหมาะที่จะพาสาวมากินไม่น้อย แถมยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆมากมาย รับรองไม่ผิดหวังกับร้าน

มาเดอเออภูธาราพิษณุโลก อ.วังทอง

ปล.ห้องพักก็สวยมากกกกกก

ติดต่อสอบถาม 093-0561233 เน็ท

หลังจากเที่ยวจนหมดแรงแล้วคืนนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศมานอนเต้นท์ดูดาวรับลมหนาวกันที่อุทยานภูหินร่องกล้าเพื่อที่ในตอนเช้าเราได้นัดรถเพื่อนขึ้นภูลมโล

นอกจากจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ที่รู้จักกันดีอยู่แล้วอย่าง ดอยอ่างขาง ขุนวาง หรือ ขุนช่างเคี่ยน วันนี้เราเลยจะขอพาไปสัมผัสกับจุดชมนางพญาเสือโคร่งแหล่งใหม่ ที่โด่งดังอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งใกล้กว่าแต่จะฟินกว่าหรือไม่ต้องตามมาชม

ภูลมโล แหล่งชมความงดงามของนางพญาเสือโคร่งน้องใหม่นี้ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และ เลย จะว่าไปแล้วที่ภูลมโลเรียกได้ว่าเป็นแหล่งชมนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะมีพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ แล้วยังมีการปลูกลดหลั่นช่วงเวลาให้ได้ชมกันอยู่หลายแปลง ทำให้การบานของดอกนางพญาเสือโคร่งแต่ละแปลงจะออกดอกไม่พร้อมกัน ซึ่งจะออกตั้งแต่ช่วงระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ข้อดีก็คือไม่ต้องแห่ไปพร้อมกันก็สามารถฟินกับความงามได้ไม่ต่างกัน

สำหรับการเดินทางมา ภูลมโล นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกขึ้นมาได้ 2 ทาง 2 จังหวัด นั่นก็คือจากทาง บ้านร่องกล้า อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก และ ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย แต่ไม่ว่าจะขึ้นจากทางไหนก็ขอแนะนำให้ติดต่อรถ 4WD ของชาวบ้านหรือของทางเจ้าหน้าที่ที่จัดเตรียมไว้จะดีกว่า เนื่องจากหนทางค่อนข้างทรหดอยู่พอควร

หลังจากชมความสวยงานของดอกนางพญาเสือโคร่งแล้วลงมาเก็บข้าวของสัมภาระเพื่อลงไปกินข้าวกลางวันและเดินเล่นกันในเขาวงกตกันครับบ

เขาวงกต เขาค้อ : The Maze Khao Kho มีเนื้อที่ขนาด 2 ไร่ มีบริการร้านอาหารและรีสอร์ทและลานกางเต้นท์ ที่ตั้ง 121 หมู่3 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โทร.085-248-1472, 081-400-3037

เวลาเปิด : 07.00-18.00 น. ทุกวัน ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท *บ้านพัก 3 หลัง ราคา 2000-5000 บาท *มีพื้นที่กางเต้นท์ ค่าเช่าเต้นท์ 500 บาท นำเต้นท์มาเอง คิดค่ากาง 100 บาท