ตลอด 70 ปี แห่งการครองราชย์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ต่างทุ่มเททรงงานหนัก เพื่อให้คนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมายกว่า 4,000 โครงการ จึงเกิดขึ้นในทุกพื้นที่บนผืนแผ่นดินไทย
สระแก้ว เป็นหนึ่งในจังหวัดภาคตะวันออก ที่มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และได้ดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “ตามรอยเส้นทางพระราชปณิธานเฉลิมพระเกียรติ 89 พรรษา” เพื่อน้อมเกล้าฯ รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทริปนี้เราจะมาชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยว ไปเรียนรู้ ไปสัมผัส กับ เส้นทางพระราชปณิธานเฉลิมพระเกียรติ 89 พรรษา รับรองว่าคุณจะประทับใจกับแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว ที่สามารถนำแนวคิดและหลักการไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตได้
สำหรับสถานที่แรกที่เราไปเยือนนั่นคือ โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ โรงเรียนสำหรับฝึกกระบือให้สามารถไถนาและทำงานด้านการเกษตรกรรม อีกทั้งยังมีการสอนเกษตรกรให้สามารถทำงานร่วมกับกระบือได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นสถานที่มอบความรู้เชิงเกษตรและวิถีชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมที่เราได้เข้าร่วมในครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่การชมสถานที่ฝึกชาวนาและกระบือให้สามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งขอบอกว่ากระบือของที่นี่มีความฉลาดและเชื่องเป็นอย่างมาก สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนจนต้องยกนิ้วกดไลก์ให้
จากนั้นเราก็ได้เรียนรู้การเป็นเกษตรกรจากนักปราชญ์ท้องถิ่นที่ช่วยถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์โดยตรงในการทำเกษตร ซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนสนใจในเรื่องนี้รับรองว่าได้ความรู้กลับไปมากโขเลยทีเดียว
กิจกรรมที่โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้อบรมการเป็นเกษตรกรแล้ว ยังมีกิจกรรมให้เราได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สวมบทเป็นชาวนาลงมือปลูกข้าวเอง และยังได้ชมแปลงนาสาธิตนาดำ 4 แปลง นาหว่าน 4 แปลง โดยการปลูกข้าวของที่นี่จะไม่ใช้สารเคมีในระยะเวลาที่ห่างกัน 1 เดือน จึงมั่นใจได้ว่าข้าวของที่นี่ปลอดสารพิษอย่างแน่นอนโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ตั้งอยู่ ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00 – 19.00 น. โทร. 037 244657
จากนั้นไปเที่ยวตามรอยพ่อกันต่อที่ อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก ตั้งอยู่ ต.ท่าแยก อ.เมือง จ.สระแก้ว เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจและเที่ยวชมธรรมชาติ โดยอ่างเก็บน้ำท่ากระบากนี้เริ่มจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำริในการปรับปรุงชลประทานในเขตพื้นที่ราบเชิงเขา
โดยทรงโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งน้ำสำหรับการเกษตรและอุปโภคบริโภคแล้ว สามารถประกันการเพาะปลูกของราษฎรให้ได้ผลสม่ำเสมอตลอดปี เนื่องจากมีน้ำชลประทานสำหรับทำการกสิกรรมเพียงพอตลอดปี
เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.08 6133 2668 หรือ โครงการชลประทานสระแก้ว โทร. 0 3726 1667
เราออกเดินทางไปยัง โครงการพัฒนาปรับปรุงสวนผลไม้ผสมผสานบ้านคลองน้ำเขียว (สวนของพ่อ) โครงการดีๆ ที่เกิดขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขาตามแนวเทือกเขาบรรทัด พระองค์ทรงพระราชทานแนวทางพัฒนา 3 ด้าน คือ พัฒนาด้านที่อยู่อาศัย พัฒนาด้านการส่งเสริมการประกอบอาชีพ และพัฒนาด้านจิตใจของราษฎร ปัจจุบันสถานีพัฒนาที่ดินสระแก้วได้ทำการดูแลและบำรุงรักษาไม้ผลได้แก่ มะม่วง มะขาม ขนุน กระท้อน มะปราง มะยงชิด ลำไย ไผ่ลวก ไผ่เลี้ยง ไผ่สีสุก ข้าวหอมมะลิ ลิ้นจี่ ฯลฯ
สนใจไปชมและตามรอยโครงการของพ่อหลวงก็สามารถไปเที่ยวกันได้ที่ โครงการพัฒนาปรับปรุงสวนผลไม้ผสมผสานบ้านคลองน้ำเขียว ต.ท่าแยก อ.เมือง จ.สระแก้ว
ต่อมาเราแวะชมความสวยงามของ สวนไผ่สีสุก ที่แห่งนี้เป็นสวนไผ่สีสุกแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงปลูกในโอกาสเสด็จฯ ไปยังพื้นที่ จ.สระแก้ว
อ่างเก็บน้ำช่องกล่ำบน อ. วัฒนานคร อีกหนึ่งโครงการตามรอยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการนำน้ำในอ่างเก็บน้ำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าก่อนที่จะระบายเพื่อการเกษตร
ปิดท้ายเที่ยวตามรอยพ่อวันแรกกันที่ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านคลองคันโท ต.หนองหมากฝ้าย อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติปางสีดา จัดตั้งขึ้นมาตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนีนาถ เพื่อให้เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์สัตว์ป่าที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ เช่น นกเงือก ละอง ละมั่ง กวางป่า วัวแดง หมีขอ หมีหมา หมีควาย เป็นต้น
เดินทางไปยัง โพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่ตั้งอยู่ ต.หนองหมากฝ้าย อ.วัฒนานคร สถาบันอุดมศึกษารูปแบบใหม่ของเมืองไทย ที่นำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นบทเรียน โดยแบ่งออกเป็น 9 ห้องเรียน และ 9 ศูนย์ภูมิปัญญาชุมชน โดยในหลักสูตรการสอนจะจัดให้มีปราชญ์ชุมชนในแต่ละอำเภอที่มีความชำนาญในเรื่องต่าง ๆ เข้ามาสอนและให้ความรู้แก่นิสิตของวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย ซึ่งเกณฑ์การคัดเลือกปราชญ์ชุมชนนั้นต้องสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงต้องมีความรู้ สามารถปฏิบัติได้จริง ตลอดจนถึงถ่ายทอดและอธิบายความรู้ให้นิสิตได้เป็นอย่างดี
บรรยากาศงานแถลงข่าวโครงการท่องเที่ยวตามรอยพระบาท “การท่องเที่ยวตามเส้นทางพระราชปณิธานเฉลิมพระเกียรติ 89 พรรษา” โดยท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระแก้ว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก (ดูแลพื้นที่นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว) ร่วมจัดโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่เมืองชายแดน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ นอกจากสถานที่ท่องเทียวตามรอยเส้นทางพระราชปณิธานเฉลิมพระเกียรติ 89 พรรษาแล้ว ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติให้นักท่องเทียวเดินทางมาชมได้อีกมากมายหลายแห่ง
แวะชมวิวสวยๆ เขาเขียวๆ และรับประทานอาหารกลางวัน ณ บริเวณโครงการอ่างเก็บน้ำพระปรงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ปราสาทสด๊กก๊อกธม โบราณสถานประเภทหินแบบศาสนสถานฮินดูปราสาทก่อด้วยหินทรายและศิลาแลงตามลักษณะศิลปะเขมรแบบคลัง-บาปวนในช่วงพุทธศวรรษที่ 15-16 ผังปราสาทด้านนอกเป็นกำแพงแก้ว ก่อด้วยศิลาแดง ยาวราว 127 เมตร
มีทางเข้าหลักคือโคปุระหรือซุ้มประตูด้านทิศตะวันออกสร้างด้วยหินทราย ผ่านโคปุระเข้ามาจะพบคูน้ำรูปตัวยูล้อมปราสาท กว้างราว 20 เมตร
ถัดเข้าไปเป็นระเบียงคดล้อมรอบตัวปราสาท ยาวราว 42.5 เมตร มีโคปุระอยู่กึ่งกลางกำแพงระเบียงคดทั้งสี่ด้าน ปราสาทนี้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ด้วยความเชื่อของขอมที่ว่า ทิศตะวันออกเป็นทิศแห่งพลังแสงสว่างและสิริมงคล ส่วนทิศตะวันตกเป็นทิศแห่งความตาย
ก่อนเดินทางกลับเราไปปิดทริปเที่ยวกันที่ ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ถือเป็นแหล่งช็อปยอดนิยมที่เมื่อใครมาสระแก้วต้องไม่พลาดเด็ดขาด โดยตลาดโรงเกลือมีพื้นที่ถึง 5 ตลาด คือ ตลาดโรงเกลือเดิม ตลาดเดชไทย ตลาดเทศบาล 3 ตลาดเบญจวรรณ และตลาดทรัพย์สมบูรณ์รวมแล้วมีร้านค้ามากกว่า 3,000 ร้านนักท่องเที่ยวจึงต้องใช้เวลานานหากต้องการจะเลือกซื้อของได้ทั่วทั้งตลาด หากใครมาอยากเดินทางตลาดโรงเกลือก็มีบริการให้เช่าจักรยานสำหรับให้นักท่องเที่ยวขี่ภายในตลาด หรือถ้าเป็นแก็งค์จะเช่ารถกอล์ฟก็ได้ ช็อปแล้วยังมีบริการรถลากของให้บริการด้วย เรียกได้ว่าช็อปเยอะขนาดไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคเพราะมีบริการอำนวยความสะดวกมากมาย