เข้าหน้าร้อนที่ไรเราก็มักจะคิดถึงทะเล ทริปนี้เที่ยวติดดิน เลยจะพาเพื่อนๆเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยว เพชรบูรณ์ พิษณุโลกให้สุดคลูในช่วงหน้าร้อนนี้ ว่าแล้วจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นไปกันเลยนะครับบ
ก่อนที่เราจะไปเที่ยวกันก็ต้องเติมพลังให้มีแรงพลังในการเที่ยวกันก่อนเดี๋ยวจะไม่มีแรง รอบนี้เราขอนำเสนอก๋วยเตี๋ยวเมืองพิโลก มีทั้งหมูตุ๋นและเนื้อตุ๋นน้ำตก ให้เลือกแบบละลายในปากไม่ละลายในมือกันเลยทีเดียวสำหรับใครที่มาเที่ยวพิษณุโลกแล้วอยากที่จะทานก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเนื้อตุ๋น ไม่ควรพลาด ร้านตั้งอยู่ใกล้ๆกับศูนย์อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย-ยวน ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก โทรมาสอบถามได้ที่ 081 8836980 สามารถโทรสั่งไว้แล้วมารับได้
หลังจากกินอิ่มแล้วก็เดินต่อมาข้างๆกับร้านก๋วยเตี๋ยวจะเป็นสถานที่แรกที่เราจะพามาเที่ยวศึกษาเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของชาติพันธุ์ ไทย ยวนพิษณุโลก ซึ่งภายในนั้นจะมีแหล่งรวบรวมเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับไทย ยวน ในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผ้าซิ่นของชาวไทย ยวน ปราชญ์ชาวบ้าน ต.สมอแข ที่มีความสามารถฝีมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแทงหยวกกล้วย ตัดกระดาษ งานจักสาน การทำม้าไม้สำหรับงานบวช โดยเฉพาะการทำม้าไม้สำหรับงานบวช ที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ ที่งดงาม ผู้สูงอายุเหล่านี้ได้สืบทอดไปสู่รุ่นลูกหลาน สำหรับชาวไท-ยวน ในจังหวัดพิษณุโลก มีประมาณ 10 หมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านจะมีผู้สูงอายุที่ยังรักษาทางวัฒนธรรมของชาวไท-ยวน ที่มีอัตลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย ภาษา ประเพณีต่างๆ ซึ่งคงความมีเสน่ห์ จากชาติพันธุ์เดิมของชาวสมอแขที่ย้ายมาจาก จ.ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม โดยแต่เดิมอพยพมาจาก โยนกเชียงแสนนคร ซึ่งปัจจุบัน คือ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด้วยวัฒนธรรมที่ยาวนาน ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลสมอแข และกลุ่มไท-ยวน ต.สมอแข จึงได้ส่งเสริมจัดตั้งศูนย์อนุรักษ์วัฒนธรรมไท-ยวน ขึ้น ที่บ้านดงประโดก หมู่ที่ 3 ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลกแห่งนี้ขึ้น เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลานได้มาศึกษาหาความรู้และเที่ยวชมกันได้ถึงที่ โดยภายในศูนย์จะรวบรวมทั้งทางด้านวัฒนธรรมพื้นถิ่น ทั้งการทอผ้าลวดลายดั้งเดิมของชาวไท-ยวน ที่สวยงามอีกด้วย
หลังจากนั้นพาไปบุกสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองกันครับ ชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร “สวนบันเทิงราตรี “สวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง เป็นผลไม้ขึ้นชื่อและส่งออกของ จ.พิษณุโลก
มาถึงตัวเมืองพิษณุโลก พาไปเดินถ่ายรูปเกร๋ๆตามสไลต์ออเจ้าที่พระราชวังจันทร์ ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เดิมที่ที่พระราชวังจันทร์นั้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประสูติ และเจริญพระชันษาที่เมืองสองแควพิษณุโลกจนถึง 9 พรรษา โดยประทับที่พระราชวังจันทร์ ปัจจุบันยังคงเหลือลักษณะเค้าโครงให้เห็นบ้าง ก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะเสียกรุงครั้งที่ 1 และพระองค์ต้องเสด็จไปอยู่ ณ เมืองหงสาวดี จากพระกรณียกิจคุณูปการ รวมถึงทรงกอบกู้เอกราชหลังจากเสียกรุงครั้งที่ 1 (ปี 2112) และประกาศอิสรภาพ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณนี้ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงได้มีการจัดสร้างพระบรมรูปองค์สมเด็จพระนเรศวรประดิษฐานไว้ภายในศาลสมเด็จพระนเรศวร
ก่อนจะหมดแรงในวันนี้พาไปกินมื้อเย็นกันที่ร้านผักบุ้งเหิรฟ้า ซึ่งแน่นอนทีเด็ดอยู่ที่ผักบุ้งเหิรฟ้าและเมนูอื่นๆอีกมากมาย โดยร้านนี้ ป็นร้านที่ตั้งมานานหลายปี โดยมีนายวิโรจน์ ศรสุวรรณศรี เป็นเจ้าของ ดั้งเดิมคุณวิโรจน์เป็นคนนครสวรรค์ วิโรจน์โภชนาผักบุ้งเหิรฟ้า มาอยู่ที่พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 2511 ได้ไปทำงานอยู่ร้านอาหาร จดจำจากพ่อครัวในเรื่องการทำอาหารแต่ละชนิด กระทั่ง ปี 2519 มีทุนเล็กๆน้อยๆเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง แต่ก็พออยู่ได้ไม่ถึงกับขาดทุน จนปี 2526 ได้ย้ายไปเปิดที่ริมแม่น้ำน่าน ขายจำพวกอาหารตามสั่ง และข้าวต้มยามดึก เริ่มมีลูกค้ามาอุดหนุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยู่มาวันหนึ่ง ทาง ททท. ได้มาแนะนำให้ตนเองหาจุดเด่นในการที่จะดึงนักท่องเที่ยว และลูกค้ามาทานอาหารที่ร้าน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.พิษณุโลก จึงได้คิดวิธีที่แปลกๆ คือผักบุ้งไฟแดง แต่ใช้วิธีโยนขึ้นฟ้า โดยจะมีพนักงานถือจานคอยรับ ตอนแรกก็ลองดู ทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจ บอกให้ทำเรื่อยๆและทุกวัน จึงได้ตัดสินใจเอาตรงนี้เป็นจุดขาย พร้อมกับคิดชื่อร้านให้ติดหู ว่า “ร้านวิโรจน์ผักบุ้งเหิรฟ้า” สำหรับผู้ที่สนใจที่จะจัดเลี้ยง หรือมีทัวร์มาลง สามารถติดต่อสอบถาม ทั้งเรื่องอาหาร หรือสถานที่ก่อนได้ เพราะเรามีห้องแอร์รองรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว สอบถามหรือสำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 055-221128 หรือ 089-9580212
หลังจากกินอิ่มนอนหลับกันไปแล้วเรามาต่อเริ่มวันที่2กันที่ร้าน กนกภัณฑ์ ขนมจีบ-ซาลาเปาร้านนี้โดดเด่นที่สารพัดเมนูก๋วยเตี๋ยว ที่มีทั้งก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา นอกจากนี่ยังมีต้มเลือดหมูและข้าวเปล่า ข้าวคลุกกะปิ และข้าวราดแกงอีกด้วย ซึ่งแต่ละเมนูก็อร่อยไม่แพ้กัน เมนูขึ้นชื่อคือก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี เด็ดตรงที่ใส่กากหมู และหนังหมูแดง ข้าวคลุกกะปิ ใส่เครื่องหลายอย่างทั้งมะม่วงดิบ หมูหวาน กุ้งฝอย กุนเชียง ถั่วฝักยาวซอย พริก และหอมซอย ข้าวที่คลุกกะปิมาไม่มีกลิ่นของกะปิจนแรงเกินไป ใส่ส่วนผสมของเครื่องแต่ละอย่างแล้วทานเข้ากันได้ดี แล้วอย่าลืมสั่งเมนูแนะนำอย่างขนมจีบและซาลาเปา ซาลาเปาลูกใหญ่ใส่รวมหลายอย่างทั้งหมูสับ กุนเชียง ปูอัด และไข่เค็ม เนื้อแป้งนุ่มแน่น ขนมจีบที่นี่ลูกใหญ่ เนื้อแน่น เต็มปากเต็มคำ โรยกระเทียมเจียวหอม ๆ
ที่ตั้ง : ร้านกนกภัณฑ์ ถนนเอกาทศรถ (ตรงข้าม ปตท.) อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก 65000
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 15.00 น. โทรศัพท์: 0-5528-0970, 08-9708-7743
หลังจากกินอิ่มกันแล้ววันนี้เราจะพาไปเล่นน้ำกันที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่คลายร้อนประจำเมืองพิษณุโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ตั้งอยู่ที่ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2546-2554 โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเริ่มการเก็บกักน้ำ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำอเนกประสงค์ขนาดใหญ่สามารถเก็บกักน้ำได้ 769 ล้าน ลบ.ม. โดยมีพื้นที่ผิวน้ำที่ระดับเก็บกักประมาณ 38,368 ไร่ และเป็นเขื่อนทิ้งหินดาดคอนกรีต สูง 75 เมตร ยาว 681 เมตร สร้างปิดกั้นแม่น้ำแควน้อย ส่วนพื้นที่ที่เปิดให้ประชาชนมาเที่ยวเล่นน้ำได้นั้นจะอยู่บริเวณท้ายเขื่อน โดยจัดทำพื้นที่ให้เหมาะสมกับการเล่นน้ำ ปรับทัศนียภาพให้สวยงาม และปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว มีการเปิดน้ำจากเขื่อนเพียงแค่ประมาณ 3 เดือน ซึ่งในช่วงปีนี้จะเปิดระหว่างวันที่ 5 กุมภาพันธ์ – 31 พฤษภาคม 2561 บริเวณจุดเล่นน้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ทางองค์การบริหารส่วนตำบลคันโช้ง หน่วยงานในท้องถิ่น และชาวบ้านได้ร่วมกันจัดสรรพื้นที่ โดยสร้างซุ้มทานอาหารและแพเล่นน้ำให้นักท่องเที่ยวได้มานั่งเล่นพักผ่อนมากกว่า 1,200 ซุ้ม มีบริการร้านอาหารและเครื่องดื่ม มีห่วงยางให้เช่า สำหรับเด็ก ๆ พร้อมห้องน้ำและลานจอดรถไว้บริการด้วย ในส่วนของค่าบริการซุ้มไม้ไผ่และแพไม้ไผ่นั้น ถ้าเป็นซุ้มไม้ไผ่ นั่งได้ 3-4 ท่าน ชั่วโมงแรก 100 บาท ชั่วโมงถัดไป 50 บาท เหมาทั้งวัน 300 บาท ส่วนแพไม้ไผ่ นั่งได้ประมาณ 5-8 ท่าน ชั่วโมงละ 100 บาท เหมาทั้งวัน 600 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลคันโช้ง โทรศัพท์ 0 5531 6550-1 หรือดูรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊ก เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน
หลังจากเล่นน้ำกินข้าวกลางวันในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนกันแล้วก็ขึ้นบกจะพาไปลุยสวนตาลเที่ยวเชิงเกษตร ดูขั้นตอนการเก็บลูกตาล ปีนต้นตาล และชิมน้ำตาลสดจากต้นชิมวุ้นลูกตาล ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของอำเภอวัดโบสถ์ ลักษณะการปีนต้นตาล และการเก็บก็คล้ายๆกันกับพื้นที่อื่นๆ เพียงแต่ที่นี้นั้นไม่ได้เก็บใส่กระบอกไม้ไผ่แต่เป็นการใช้ขวดพลาสติกแทน นอกจากนี้แล้วยังมีการนำผลลูกตาลมาทำเป็นวุ้นลูกตาลอีกด้วย นางรัชญา อรุณวรกิตติ หรือ คุณเดียร์ เจ้าของร้านกาแฟสดวัดโบสถ์ ตนได้ทดลองนำลูกตาล ซึ่งเป็นของดีอำเภอวัดโบสถ์ มาแปรรูปเป็นวุ้นลูกตาลขายให้กับลูกค้าดู เนื่องจากต้องการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของดีชุมชน ซึ่งหลังจากทำขายปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก มีลูกค้าสั่งวุ้นลูกตาลไปรับประทานกันจำนวนมาก เนื่องจากมีรสชาติ อร่อย หวานชื่นใจ ดับกระหายคลายร้อนเป็นอย่างดี หากผู้ใดชื่นชอบรับประทานวุ้นลูกตาล ก็สามารถไปเลือกซื้อได้ที่ร้านกาแฟวัดโบสถ์ หน้าปั้มน้ำมันเซลล์ อ.วัดโบสถ์ได้เป็นประจำทุกวัน หรือสามารถสอบถามได้ที่ 097-9654964
หลังจากนั้นเดินทางเข้าที่Rainforest Resort Phitsanulok ที่พักแสนสะดวกสบายในทำเลริมน้ำตกแก่งซองที่สวยงามพักและรับประทานอาหารกันที ด้วยตัวที่พักที่มีความเป็นธรรมชาติเงียบสงบรีสอร์ทอยู่ห่างจากจุดล่องแก่งที่น้ำตกแก่งซองออกไปเพียง 1 กิโลเมตร สนามบินพิษณุโลกอยู่ห่างออกไป 50 นาทีหากเดินทางโดยรถยนต์ และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น เช่น พระพุทธชินราช อยู่ห่างออกไป 45 กิโลเมตร ห้องพักปรับอากาศทั้งหมดของรีสอร์ทมีห้องน้ำในตัวและระเบียงส่วนตัว ท่านสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น บริการคาราโอเกะ สปา และบริการนวด ตลอดจนที่จอดรถฟรีห้องอาหาร Rainforest มีบริการกาแฟและอาหารไทยต้นตำรับ
หลังจากพักผ่อนสัมผัสบรรยกาศใกล้ชิดกับธรรมชาติไปแล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อไปที่ร้านกาแฟ le Bambu mill อ.เขาค้อ บ้านเพชรดำทางขึ้นกังหันลม ซึ้งเป็นร้านกาแฟเล็กๆน่ารักมีมุมเกร๋ๆให้ถ่ายรูป ติดกับลำธาร(ที่น้ำเกือบจะแห้ง)มีสะพานข้ามไปยังป่าไผ่เดินเข้าร้าน ร้านมี3โซนให้เลือกนั่งทั้งชั้น1ชั้น2หรือจะเป็นโซนติดริมลำธารเครื่องดื่มกาแฟรสชาติดีและมีหลายเมนูให้เลือกชิม
ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 09 1512 5999
เฟซบุ๊ก : Le Bambu Mill
หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่การตามหาแมงกระพรุนน้ำจืด สัตว์ที่หายากมากชนิดหนึ่งของโลกอยู่ที่หนองแม่นา แก่งบางระจัน จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมซึมซับบรรยากาศอันร่มรื่นของแก่งบางระจัน นอกจากนี้ ยังสามารถชมผีเสื้อนานาพันธุ์ นับพันตัวบินเรียงรายรอบๆตัวเรา ในช่วง 2 เดือน มีนาคม – เมษายน นี้เท่านั้น กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นั่งเรือพายเที่ยวชมแมงกะพรุนน้ำจืด ที่แก่งบางระจัน บ้านหนองแม่นา เขาค้อ เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่กี่ปี แต่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นเปิดตัวให้ได้ยลโฉมเจ้าแมงกะพรุนน้ำจืด สัตว์น้ำที่หายากมากพันธุ์หนึ่งของโลก และปรากฎโฉมอยู่ในกี่แห่งเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมแมงกะพรุนและผีเสื้อกันนานาพันธุ์ ได้ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ เพราะแมงกะพรุนเริ่มปรากฎโฉมให้เห็นกันแล้ว และจะค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ และเยอะที่สุดในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน
ธรรมชาติ ของแมงกะพรุนคืออาศัยอยู่ในทะเล ถือเป็นสัตว์น้ำเค็ม ส่วนที่พบที่หนองแม่นานั้นตาม ทฤษฏีทางธรณีวิทยามีข้อสมมติฐานว่า พบแมงกะพรุนมาตั้ง แต่ยุคพรีเคมเบรียน ยุคนั้นโลกยังเป็น Water world หลักฐานทางธรณีวิทยาจังหวัดเพชรบูรณ์พบว่าแผ่นดินยกตัวขึ้นมาจากทะเลในสมัย ไตรแอคสิกตอนปลาย มีหลักฐานการค้นพบรอยตีนบรรพบุรุษไดโนเสาร์ที่หน้าผาหิน บริเวณบ้านนาพอสอง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เมื่อนำมาประกอบกับการวิจัยแมงกะพรุนน้ำจืด เป็นไปได้ว่าแมงกะพรุนที่อยู่ในสภาพโพลิป ติดขึ้นมากับแผ่นดินที่ยกตัวสูงขึ้นจากทะเล และน้ำทะเลกลายมาเป็นน้ำจืด แมงกะพรุนจึงเกิดการปรับตัววิวัฒนาการมาเป็นแมงกะพรุนน้ำจืด
ขณะที่มีรายงานการค้นพบแมงกะพรุนน้ำจืดในประเทศไทย 2 สายพันธุ์ คือ Craspedacusta Sinensis แมงกะพรุนน้ำจืดสายน้ำนิ่ง พบได้แถบลุ่มน้ำโขง เช่น น่าน เลย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และ Craspedacusta sowerbyi แมงกะพรุนสายน้ำไหล พบได้ที่เพชรบูรณ์แห่งเดียวในขณะนี้ และเป็นแห่งที่สองของโลกที่พบแมงกะพรุนน้ำจืดปรากฏตัวอยู่บนภูเขาสูง แห่งแรกอยู่ที่เทีอกเขาแอปปาเลเชี่ยนในสหรัฐอเมริกา อาหารของแมงกะพรุนคือแพลงค์ตอนสัตว์ จะปรากฏตัวในช่วงเดทือนมีนาคม-พฤษภาคม ของทุกปี โดยมีสภาพธรรมชาติเป็นผู้กำหนด
แหล่ง ที่พบแมงกะพรุนน้ำจืดบนเขาค้อ คือแก่งบางระจัน เป็นส่วนหนึ่งของลำน้ำเข็ก อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ด้านที่เข้าจากทางเขาค้อ ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ความสำคัญของแก่งบางระจันคือความสวยงามของกระแสน้ำในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว ที่มีกระแสน้ำไหลแรงตลอดเส้นทางชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวได้เข้าไปพักผ่อนเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่ในฤดูแล้ง กระแสน้ำแทบไม่มีการไหวติง ซึ่งกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของที่นี่ เพราะเป็นช่วงที่แมงกะพรุนน้ำจืด ปรากฏกายออกมาบนแก่งน้ำขังนิ่งบนภูเขาแห่งนี้ นับร้อยนับพันตัว
การเที่ยวชมแมงกะพรุนน้ำจืด สามารถติดต่อผ่านทางรีสอร์ทที่พัก หลายแห่ง มีการจัดโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยว บรรจุการเที่ยวชมแมงกะพรุนน้ำจืดไว้ด้วย หรือหากท่านที่สะดวกเดินทางไปเที่ยวชมเอง สามารถตรงเข้าไปยังแก่งบางระจัน เพื่อติดต่อขอฝีพาย พายเรือเข้าชมแก่งได้ นอกจากนี้ยังสามารถสอบถาม ปรึกษาข้อมูลการท่องเที่ยวกับชาวบ้านได้โดยตรง ติดต่อสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่
คุณสมพงษ์ ตุ้มคำ โทร 081-046-2166 หรือ 087-432-1714