7 GREENSTURISMO in Phangnga

เมืองเก่าตะกั่วป่า (อาคารชิโนฯ) ตะกั่วป่า เมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากในอดีต แหล่งท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมของจังหวัด ที่มีเอกลักษณ์ และมีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามของตึกเก่า เรียงรายเต็มสองฟากของถนนศรีตะกั่วป่า เมืองเก่าตะกั่วป่า สร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อน พ.ศ. 500 เดิมมีชื่อว่า เมืองตกโกล แปลว่า กระวาน ต่อมาได้เพี้ยนเป็น ตะโกลา และกลายเป็น ตะกั่วป่า ในอดีตเมืองตะกั่วป่าเจริญรุ่งเรืองมากในยุคเหมืองแร่ สมัยรัชกาลที่ 7 เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ มีความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยแร่ดีบุก จึงทำให้มีคนจีนอพยพเข้ามาทำงานในเหมืองเป็นจำนวนมาก เมืองเก่าตะกั่วป่าถือเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ชาวบ้านในพื้นที่ ยังคงรักษาบ้านเรือน และวิถีชีวิตดั้งเดิม ซึ่งหลายบ้านเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้เข้าไปชมสถาปัตยกรรม ผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออก หรือที่เรียกว่า “ชิโน-โปรตุกีส” ซึ่งทำให้บ้านเรือนของเมืองตะกั่วป่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะบริเวณ ถนนอุดมธารา และ บริเวณถนนศรีตะกั่วป่า (ตลาดใหญ่) ตึกเก่าเมืองตะกั่วป่า มีลักษณะเป็นตึกแถวสองชั้น ก่ออิฐถือปูน ด้านหน้าอาคารชั้นล่าง มีทางเดินเท้าเชื่อมต่อกันเป็นระยะๆ มุงหลังคาด้วยกระเบื้องแบบจีน และมีซุ้มประตูโค้งแบบเดียวกับหง่อคาขี่ในจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันธุรกิจเหมืองแร่เลิกไปนานแล้ว แต่ตึกเก่าเหล่านี้ ยังคงมีผู้คนอาศัยอยู่ อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวิถีท้องถิ่น

ธารมรกต ธารมรกต หรือ คลองนางย่อน จังหวัดพังงา เป็นจุดล่องแพแห่งใหม่ที่มีความพิเศษและสวยงามที่ไม่ซ้ำแบบใคร เพราะแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม และที่มากไปกว่าความสวยงาม คือผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ จังหวัดพังงา เมืองท่องเที่ยวแดนใต้ที่เพียบพร้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ “ธารมรกต” หรือ “คลองนางย่อน” ตั้งอยู่ที่ตำบลคุระบุรี อำเภอคุระบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ถอดด้าม ที่กำลังรอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวที่ชอบการล่องแพ และอยากใกล้ชิดธรรมชาติให้มากขึ้นกว่าเดิม ธารมรกตแห่งนี้มีลักษณะเป็นคลองที่ทอดยาวตามธรรมชาติ ความพิเศษของธารมรกตแห่งนี้ กลับอยู่ที่ความนิ่งและความใสของน้ำคล้ายสีเขียวมรกต โดยการล่องแพของที่นี่ มีลักษณะเป็นแพไม้ไผ่ ที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ทำขึ้นมาเอง กินระยะทางยาวประมาณ 3 กิโลเมตร และใช้เวลาในการล่องประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ อย่าง ลานหินรูปหัวใจ มีความเชื่อว่าถ้าใครมาที่นี่แล้วหาหินรูปหัวใจเจอ มักจะสมหวังในเรื่องความรัก ลานหินแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยปราสาทหินรูปหัวใจที่นักท่องเที่ยวมาก่อไว้

 

บียอน รีสอร์ท บียอน รีสอร์ท เขาหลัก รีสอร์ทริมชายหาดสุดแสนโรแมนติก ตั้งอยู่บนหาดปากวีป ในจังหวัดพังงา ภายใต้การบริหารงานโดยเครือกะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย ได้รับรางวัลเหรียญทองจาก Travelife Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว ที่ตระหนักในเรื่องของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ด้วยการดำเนินนโยบายสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่อง “บียอนรีสอร์ท เขาหลัก นอกจากจะมีคอนเซปต์ “ Romancing The Beach รีสอร์ทริมชายหาดสุดแสนโรแมนติก” เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และแตกต่าง เรายังให้ความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต ที่นี่เรามุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ มีการจัดทำนโยบายในการใช้ทรัพยากรที่มีค่าให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่เพื่อการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืนเท่านั้น แต่เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี และมีความปลอดภัย ดังนั้นเราจึงไม่หยุดที่จะพัฒนา รวมทั้งปรับปรุงนโยบายด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องจนทำให้บียอน รีสอร์ท เขาหลัก ประสบความสำเร็จและได้รับการรับรองจาก travelife collection วิธีการปรับตัวส่งผลกระทบที่ดีขึ้นอย่างไรต่อสิ่งแวดล้อม บียอน รีสอร์ท เขาหลัก ในเครือกะตะกรุ๊ป ได้มุ่งมั่นที่จะช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ – น้ำจะถูกนำกลับมาใช้ในสวนและการซักรีดที่มีมาตรฐาน ISO 14000 – ก๊อกน้ำในอ่างล้างมือ และอ่างอาบน้ำแบบไฮบริท สามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 50%โดยอัตโนมัติ เมื่อเทียบกับรุ่นทั่วไป – 99% ของแสงสว่างทั้งหมดในรีสอร์ท ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงานในพื้นที่ส่วนกลางเราควบคุมแสงสว่างโดยการตั้งไทม์เมอร์ในการควบคุมความสว่างให้ขึ้นอยู่กับเวลาและสภาพอากาศ – ระบบคีย์การ์ดสำหรับห้องพัก (ใส่คียการ์ดในช่องเพื่อเปิดใช้พลังงาน) – เครื่องทำน้ำอุ่นพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับทุกห้องพักเครื่องมือง่ายๆนี้จะช่วยประหยัดได้ประมาณ 15% – เครื่องปรับอากาศที่ใช้ควบคุมอุณหภูมิที่ 25 องศา (คงที่) ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ถึง 25% ในประเทศไทยขยะคือเงิน เราสามารถขายขยะจากการแยกขยะ ตามทฤษฎี’ 4Rs’ที่เรารู้จักกันดีคือ – Reduce, Reuse, Recycle และ Refuse โดยดำเนินการอย่างเข้มงวด ตามแนวทางของ travelife collection จากการมีส่วนร่วมของเราในการแยกขยะและของเสีย นำออกไปขาย และ ขอให้ร้านค้าเวลาส่งของให้โรงแรม ขอให้ช่วยลดขยะโดยใช้พาชนะใส่ของแทนถุงพลาสติก นโยบายสิ่งแวดล้อมตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ -การอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน -ควบคุมและลดปริมาณการใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์ -การนำกลับมาใช้อีก -การสนับสนุนให้อนุรักษ์ ปกป้องรักษาธรรมชาติ และการรณรงค์ให้ใช้ -การกำจัดน้ำเสีย -การนำกลับมาใช้อีก -การใช้ทรัพยากร อย่างมีประสิทธิภาพ -การลดปริมาณการใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์ -วัสดุอุปกรณ์อะไรต่าง ๆ ที่ไม่กระทบกระเทือนต่อธรรมชาติ วิธีการที่เราสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นและมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อสนับสนุนธุรกิจ การท่องเที่ยวในท้องถิ่น จัดให้มีการขายแพ็คเกจทัวร์ผ่านเคาน์เตอร์ในโรงแรม โดยการจัดการของคนในชุมชน อีกทั้งส่งเสริมให้มีการซื้อยานพาหนะเพื่อรับ-ส่งนักท่องเที่ยวไปตามตลาด และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

Little Amezon คลองสังเน่ห์ หรือ Little Amazon ตะกั่วป่า ตั้งอยู่ใน ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นคลองสายสั้นๆ ที่มีต้นน้ำมาจาก เขาบางเต่าก่อนจะไปสิ้นสุดที่แม่น้ำตะกั่วป่า ที่นี่เป็นผืนป่าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ พืชพรรณแปลกๆที่ขึ้นอยู่ ตามริมฝั่งคลองสังเน่ห์ นั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลด้วยความหลากหลาย นักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสผืนป่าแห่งนี้จึงตั้งฉายา ว่าเป็น Little Amazon นั่นเอง ไฮไลต์ของการล่องเรือชมความความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่คลองสังเน่ห์ คือการได้ชมต้นไทร โบราณ อายุนับร้อยปีที่แผ่กิ่งก้านสาขา อยู่ริมคลอง บางช่วงก็ห้อยระย้าตรงหน้าเหมือนม่านอุโมงค์ต้นไทรให้ล่องนั่งเรือผ่านไป ถือว่าเป็นภาพที่แปลกตา สามารถหาชมได้เฉพาะที่คลองสังเน่ห์แห่งนี้เท่านั้น รวมถึงต้นไม้น้ำอย่างเช่น ต้นตีนเป็ดน้ำ ทั้งนี้ยังได้ชมอีกหนึ่งไฮไลต์ของการล่องเรือ คือการได้ชมงู ทั้งงูเขียว งูปล้องทอง งูเหลือม ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะอันตรายเพราะเราล่องดูงูอยู่ห่างๆ และในช่วงกลางวันงูจะนอนหลับนิ่ง ขดกับต้นไม้เพื่อรอเวลาออกหากินในตอนกลางคืน นอกกจากนี้ยังมีนกเงือก สัตว์สงวนหายาก ซึ่งจะมากินลูกไทร นกกระสาและนกอีกหลายชนิด ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งจะบินมาหาอาหารกิน หากมาในช่วงจังหวะที่ดีก็ มีโอกาสได้เห็นนกเหล่านั้นบินโฉบผ่านไปมา ด้วยความลึกลับแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์และความสวยงามทำให้ที่นี่เคย ใช้เป็นฉากถ่ายภาพยนตร์เรื่องแม่นาคพระโขนง ที่ใหม่ ดาวิกา และมาริโอ้ แสดงนำ

ชุมชนบ้านท่าดินแดง บ้านท่าดินแดง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พื้นที่ส่วนใหญ่ของหมู่บ้านเป็นพื้นที่ติดกับทะเล มีป่าชายเลน และป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล เหมาะแก่การเที่ยวชมธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง มีประชาชนอาศัยอยู่ 20 ครัวเรือน ประชากร 430 คน ส่วนใหญ่ตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งคลองป่าชายเลน ในปี พ.ศ.2547 เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ชุมชนบ้านท่าดินแดงเกิดน้ำทะเลท่วมสูงทั่วทั้งหมู่บ้าน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสียหายไปจนเกือบหมด และได้มีการฟื้นฟูธรรมชาติโดนการร่วมมือกันของประชาชนในพื้นที่จนธรรมชาติกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง!!!

ปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ หลังเกิดเหตุการณ์สึนามิทรัพยากรถูกทำลายจนเกือบหมด ชาวบ้านจึงเปลี่ยนมาปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ เพื่อแก้ไขปัญหาดินที่กลายเป็นดินทรายแทบทั้งหมด ทุกวันนี้ในชุมชนปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ประมาณ 100 โรงเรือน ทั้งผักกาดขาว คะน้า กวางตุ้ง ผักสลัด และก่อตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักบ้านท่าดินแดง เหมืองแร่โบราณ เมื่อก่อนละแวกนี้จะนิยมทำเหมืองแร่กันมาก และทิ้งร่องรอยประวัติศาสตร์ในยุคเฟื่องฟูของการทำเหมืองแร่เอาไว้ให้ได้ชมกัน ส่วนใหญ่ที่นี้จะเป็นแร่ดีบุก โดยมีผู้หลักผู้ใหญ่ขอทางชุมชนมาสาธิตวิธีการร่อนให้ได้ดูอีกด้วย

ทุ่งหญ้าสะวันนา สีทองเหลืองอร่ามเป็นทิวทัศน์เหมือนกับที่เห็นในสารคดีทุ่งสะวันน่าของแอฟริกา ทุ่งหญ้าแห่งนี้ความพิเศษ คือ สีหญ้าที่เปลี่ยนไปตามแสง เงา เมื่อผ่านหน้าฝนทุ่งหญ้าจะเปลี่ยนจากสีเหลืองทองเป็นสีเขียว ห่างจากทุ่งหญ้าสะวันน่าไปไม่ไกล ก็คือ เขาหน้ายักษ์ หาดที่เขาว่าสวยไม่แพ้เกาะสวยๆ ในพังงาเลยทีเดียว

บ้านโคกไคร บ้านโคกไคร ตำบลมะลุ่ย อำเภอทับปุด เป็นหมู่บ้านที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยึดอาชีพประมงพื้นบ้าน และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นหลักในการดำรงชีพ สำหรับที่มาของชื่อหมู่บ้าน “โคกไคร” คำว่า “โคก” นั้นหมายถึงที่สูงเหนือน้ำหรือ ที่เป็นเนินสูง พื้นที่ของหมู่บ้านติดทะเล ยิ่งเมื่อเวลาน้ำทะเลลดก็จะยิ่งดู ว่าพื้นที่นั้นสูง เหนือระดับน้ำทะเลมาก สปาโคลนหาดทรายร้อน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หาดน้ำร้อน” ซึ่งเกิดจากรอยแยกของเปลือกโลก จะพบได้ตอนน้ำทะเลลดระดับ ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดน้ำทะเลร้อน ทรายร้อนและโคลนร้อน ชาวบ้านในพื้นที่ใช้บำบัดโรคเหน็บชา ปวดเมื่อย หากได้มาเยือนในตอนเช้าจะพบหมอกควันสีขาวอยู่รายรอบบริเวณหาด โดย 1 เดือนจะทำกิจกรรมนี้ได้เพียง 10 วันเท่านั้น ระหว่าง 3 ค่ำถึง 7 ค่ำ นับเป็นความอัศจรรย์จากธรรมชาติ ที่นำมาบริการแก่นักท่องเที่ยว หาดตั้งเลน หรือ เขาตั้งเลน เป็นหาดทรายขาวบริสุทธิ์ทอดยาวอยู่กลางทะเล พบได้ในช่วงที่น้ำทะเลลดเท่านั้น กับทัศนียภาพที่งดงาม ทั้งยังเป็นพื้นที่ของ “ปูมดแดง” นับแสนตัวจะออกมาปรากฏกายให้เราได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ฟาร์มหอยนางรม เรียนรู้วิธีการทำฟาร์มหอยนางรม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันวัน พรีเว็ดดิ้งหอย พร้อมทานอาหารพื้นบ้านที่ปรุงจากหอยนางรมสดๆ