สภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ญี่ปุ่น เผยตลาดเนื้อวากิวในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น และเป็นที่ต้องการของตลาดเอเชียเป็นจำนวนมาก พร้อมมุ่งผลักดันระบบออลเจแปน (All Japan)
เพื่อยกระดับสินค้าผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ญี่ปุ่นให้มีคุณภาพมาตรฐานตามหลักสากล ทั้งนี้ยังได้พัฒนา ต่อยอด ระบบตรวจสอบเนื้อวากิวแท้จากประเทศญี่ปุ่นผ่าน QR Code ที่มีสัญลักษณ์ โลโก้เนื้อวากิว มั่นใจผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และจำแนกสินค้าเนื้อวากิวแท้จากประเทศญี่ปุ่นได้มากยิ่งขึ้น

คุณทสึโยชิ ฮิชินูมะ ผู้อำนวยการสภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ จากปศุสัตว์ญี่ปุ่น กล่าวว่า สภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ จากปศุสัตว์ญี่ปุ่น ได้ถูกจัดตั้งมาโดยมีเป้าหมาย เพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ญี่ปุ่นโดยใช้ระบบ ออลเจแปน (All Japan) ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่เนื้อวัว รวมถึงเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ นมวัว ผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น สำหรับด้านเนื้อวัวนั้น ได้มีการก่อตั้ง “คณะกรรมการพิจารณายุทธศาสตร์การส่งออกเนื้อวัว” ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสภาปศุสัตว์กลาง โดยมีหน้าที่ในการรวบรวมผู้ประกอบการ เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องด้าน
ปศุสัตว์ต่างๆเช่น การผลิตเนื้อวัวในประเทศ แหล่งผลิต การแปรรูป การกระจายสินค้า การส่งออก ฯลฯ เพื่อยกระดับแบรนด์ให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าต่างๆ ไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะ เนื้อวากิว นับได้ว่าเป็นหนึ่งในการปศุสัตว์ของประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกกจับตามองในฐานะวัตถุดิบชั้นสูงและด้วยคำล่ำลือด้าน รสชาติ ความปลอดภัย ทำให้นอกจากนานาประเทศในเอเชียซึ่งมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นแล้ว ความต้องการนั้นกำลังค่อยๆแพร่ขยายไปยังตะวันตกอีกด้วย

สำหรับตลาดเนื้อวากิวในประเทศไทย มีอัตราความต้องการและเป็นที่นิยมสูงมาก เนื่องจากสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด อาทิ สุกี้ยากี้ ชาบู สเต๊ก เป็นต้น ซึ่งความนิยมดังกล่าวทำให้มีผู้นำเข้าและจำหน่ายเนื้อวากิวเป็นจำนวนมาก ทั้งแบบได้มาตรฐานและไม่ได้มาตรฐาน โดยผู้บริโภคเองนั้นไม่ได้มีความรู้เรื่องเนื้อวากิว และไม่สามารถจำแนกได้ว่าเนื้อนี้ผลิตและถูกเลี้ยงที่ประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ ดังนั้นทางสภาส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ญี่ปุ่น จึงได้มีการ กำหนดโลโก้ วากิว เพื่อนำไปประทับบนบรรจุภัณฑ์เนื้อวัววากิวที่เกิดและถูกเลี้ยงในประเทศญี่ปุ่น การันตีว่าผู้บริโภคเองนั้นสามารถตรวจสอบโลโก้ เพื่อให้แน่ใจถึงเนื้อคุณภาพสูงเมื่อรับประทานเนื้อวากิวภายนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันทางสมาคมได้มีการพัฒนาระบบการตรวจสอบเนื้อวากิวแท้จากประเทศญี่ปุ่น ผ่านระบบ QR Code ซึ่งสามารถเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ อาทิ ชนิดของวัว แหล่งที่มา เกรดของเนื้อ รวมถึงมีการสาธิตการหั่นเนื้ออย่างถูกวิธี พร้อมวิธีการปรุงจากสูตรต้นตำรับ เป็นต้น

“วากิว” นับเป็นเนื้อที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมที่หาไม่ได้ในเนื้อชนิดอื่น เรียกได้ว่าเป็นทรัพย์สมบัติเฉพาะของญี่ปุ่น และสายพันธ์วัวที่นิยมนำมาเลี้ยงกันมากที่สุดคือ Japanese Black “พันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ” (Kuroge washu) ซึ่งชาวญี่ปุ่นยกย่องให้เป็นสุดยอดแห่งสายพันธุ์อันดับหนึ่ง มีการเลี้ยงกันมากกว่า 90% ของประชากรวัวทั้งหมดในญี่ปุ่น และเฉพาะสายพันธุ์ Japanese Black นี้เท่านั้นที่จะให้เนื้อซึ่งมีไขมันแทรกในปริมาณสูงสุด

สำหรับผู้บริโภคเองมักจะได้ยินว่า เนื้อวากิวนั้นมีหลายชนิด อาทิ เนื้อมัตสึซากะ เนื้อโกเบ เนื้อโอมิ จริงๆแล้ว มันคือเนื้อจากวัวพันธุ์เดียวกันคือ Japanese Black แต่ถูกนำไปเลี้ยงในเมืองที่ต่างกัน วิธีการเลี้ยง สภาพแวดล้อม อาหาร การดูแล ที่ต่างกัน ทำให้ได้เนื้อออกมามีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน ทั้งรสชาติและคุณภาพของเนื้อ และเพื่อรักษาคุณภาพของเนื้อวะกิวที่ได้รับความนิยมทั่วโลก จึงมีการใช้โลโก้เพื่อแยกวัววากิวแท้ที่เลี้ยงในญี่ปุ่นและส่งออกไปยังต่างประเทศ

“การจัดเกรด” ซึ่งเป็นการยากที่จะตัดสินว่าประเภทใดจะมีรสชาติที่ดี ดังนั้น “การจัดเกรด” จึงกลายเป็นมาตรฐานเพื่อแสดงถึงระดับของคุณภาพเนื้อ เป็นวิธีการจัดอันดับเนื้อที่กำหนดขึ้นโดยสมาคมการจัดเกรดเนื้อของญี่ปุ่น เกณฑ์วัดอย่างหนึ่งคืออัตราส่วนของเนื้อที่ได้จากส่วนที่กินได้ของวัว โดยมีการการแบ่งเกรดของเนื้อวัวออกเป็น 2 ส่วน คือ อัตราส่วนของโครงสร้างเนื้อเทียบกับน้ำหนัก มี 3 ระดับ ตั้งแต่ A – C กับ การแทรกตัวของไขมันที่เข้าไปในเนื้อ มี 5 ระดับ ตั้งแต่ 5 – 1 เพราะฉะนั้นการวัดเกรดของเนื้อวากิวจะมีทั้งหมด 15 ระดับ และระดับที่ดีที่สุดคือ ระดับ A5 โดยพิจารณาจากคุณภาพในสี่หัวข้อ ได้แก่ ลายหินอ่อน สีและความมันวาวของเนื้อ ความแน่นและสัมผัสของเนื้อ และ สี ความมันวาว และคุณภาพของไขมัน เกรดโดยรวมของเนื้อวัวจะถูกกำหนดโดยรวมทั้งสองเกณฑ์นี้เข้าด้วยกัน